ลายกินรี ตอนที่ 3 (EP.3) วันที่ 31 ตุลาคม 2565 HD
รายการ : ลายกินรี
หมวดละคร : ละครลายกินรี
ออกอากาศ : ตอนที่ 3 (EP.3) วันที่ 31 ตุลาคม 2565
Description : รายการ : ลายกินรี
วันที่ออกอากาศ : จันทร์ อังคาร
เวลาออกอากาศ : 20:30:00 - 22:45:00
คุณภาพ : HD
รายละเอียด : ณ กรุงเทพทวารวดีศรีอยุธยา พ.ศ. ๒๒๓๐ ปีที่ ๓๐ ในรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์ พุดซ้อน เป็นธิดาของ หมอโหมด ที่ทำหน้าที่รักษาคนไข้หลังจากที่หมอโหมดเสียชีวิตไป แต่ด้วยคนในสมัยนั้นไม่เชื่อมั่นในหมอผู้หญิง เธอจึงใช้ชื่อหมอมีผู้เป็นพี่ชายบังหน้า แม้ว่าคนไข้จะรู้ว่าหมอเป็นผู้หญิงก็ไม่ได้เสื่อมศรัทธาต่อพุดซ้อนแต่อย่างใด
วันหนึ่ง ผัวเมียคู่หนึ่งกำลังตกปลาเพื่อนำไปขาย แต่สิ่งที่พวกเขาตกได้ในวันนี้ไม่ใช่ปลา แต่เป็นศพของฝรั่งคนหนึ่ง จึงไปตามพุดซ้อนมาช่วยดูศพให้ พุดซ้อนพบว่าชายผู้ตายแต่งกายคล้ายสตรีและนุ่งผ้าซิ่นยาวลายกินรีซึ่งเป็นผ้าลายอย่างที่มีใช้เฉพาะในวังเท่านั้น อีกทั้งพุดซ้อนยังตรวจพบว่าชายคนนี้เสียชีวิตก่อนที่จะถูกลากลงมาทิ้งในน้ำด้วย ในระหว่างการตรวจศพ หลวงอินทร์ หรือ ออกหลวงอินทราชภักดี เจ้ากรมพระตำรวจนอกขวา และ เมอซีเออร์โรแบรต์ เลขานุการของกัปตันฟอร์แบงหรือออกพระศักดิ์สงครามก็มาเห็นเหตุการณ์เข้าพอดี หลวงอินทร์ไม่เชื่อมั่นในตัวหมอผู้หญิงตามค่านิยมของคนในสมัยนั้น อีกทั้งพุดซ้อนยังเป็นธิดาของหมอโหมด ผู้ที่รักษาภรรยาของเขาไม่หาย จนต้องตายไปเมื่อหลายปีก่อน แต่โรแบรต์ต้องการให้มีการตรวจศพเพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริง แม้ว่าหลวงอินทร์จะไม่พอใจแต่ก็ไม่มีทางเลือกจึงต้องยอมให้พุดซ้อนเป็นผู้ตรวจศพตามที่โรแบรต์ต้องการ
พุดซ้อนและโรแบรต์เดินทางไปแจ้งข่าวให้ คลาร่า ภรรยาของ กัปตันฌอง รับรู้ข่าวการเสียชีวิต คลาร่าเล่าว่าเมื่อคืนกัปตันฌองเข้านอนตามปกติ แต่ตื่นเช้ามาเธอก็ไม่พบเสียแล้ว โรแบรต์สั่งให้คนไปเปลี่ยนเสื้อผ้ากัปตันฌองและเก็บใส่โลงไม้เอาไว้ แล้วจะให้คนเก็บผ้าลายกินรีผืนนั้นไว้ให้พุดซ้อนเพื่อตรวจสอบภายหลัง
หลวงอินทร์เดินทางมาหาพุดซ้อนที่บ้านเพื่อคุยเรื่องการตรวจศพกัปตันฌอง เขาไม่ต้องการให้มีการตรวจศพ เพราะถ้าหากกัปตันฌองถูกฆ่าตายและผู้ฆ่าเป็นชาวสยาม ฝรั่งเศสอาจยกเรื่องนี้เป็นเหตุให้เกิดสงครามได้ แต่พุดซ้อนยืนยันที่จะตรวจศพ เพราะคิดว่าคนร้ายอาจจะเป็นชาวฝรั่งก็ได้ และเรื่องราวอาจไม่เลวร้ายอย่างที่คิด
พุดซ้อนสงสัยเกี่ยวกับผ้าลายกินรี จึงเดินทางไปหา เจ้าจอมสารภี เจ้าจอมในรัชกาลก่อนผู้เป็นป้าของเธอเพื่อสอบถามว่าผ้าแบบนี้เป็นของใคร ซึ่งเจ้าจอมสารภีกล่าวว่าอาจจะเป็นของ เจ้าจอมกินรี เจ้าจอมคนโปรดในรัชกาลปัจจุบัน เจ้าจอมสารภีสัญญาว่าจะช่วยสืบให้ นอกจากนี้ พุดซ้อนยังฝากมีผู้เป็นพี่ชายไปสืบข่าวจากเพื่อนว่าฌองไปที่ซ่องบุรุษหรือไม่ เพราะฌองอาจจะเป็นพวกที่ชอบผู้ชายด้วยกัน แต่เพื่อนของมีบอกว่าคืนนั้นฌองไม่ได้ไปที่ซ่องบุรุษ แต่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่ากัปตันฌองมีเรื่องกับ กัปตันปอล เรื่องแย่งตัวเด็กผู้ชายกันมาก่อนด้วย พุดซ้อนจึงไปหาคลาร่าที่บ้านอีกครั้งเพื่อขอตรวจศพ แต่คลาร่าปฏิเสธ โดยอ้างว่าไม่ต้องการให้สามีถูกหยามเกียรติไปมากกว่านี้
ระหว่างที่ จีบ คนรับใช้คนสนิทของพุดซ้อนไปเดินตลาด ก็ได้พบกับเด็กแขกคนหนึ่งกำลังจะถูกนำไปขายที่ซ่อง จีบสงสารจึงขอซื้อตัวเอาไว้ด้วยเงินที่ตกลงกันคือ ๔ ตำลึง แต่จีบไม่มีเงินพอจึงให้พวกนักเลงที่จะนำเด็กไปขายมารับเงินที่บ้านของพุดซ้อนภายหลัง เด็กแขกคนนั้นชื่ออะมีนะห์ พูดภาษาสยามไม่ได้ วันถัดมาพวกนักเลงก็ตามมาเอาเงิน แต่จะขอเงินค่าไถ่ตัวเด็กเป็นเงิน ๑๒ ตำลึงแทน บังเอิญหลวงอินทร์แวะมาพอดี จึงช่วยไล่พวกนักเลงไปได้ หลวงอินทร์แวะมาเพื่อขอความช่วยเหลือจากพุดซ้อน เพราะ จวง คนไข้รายหนึ่งของพุดซ้อน เป็นแม่ของ จั่น ฆาตกรที่ฆ่าฝรั่งคนหนึ่งตายและรอโทษประหารอยู่ แต่จั่นแหกคุกออกมา และหลวงอินทร์เชื่อว่าจั่นจะต้องกลับไปหาแม่อย่างแน่นอน หากจั่นหนีไปได้ ฝรั่งเศสอาจยกเป็นเหตุให้เกิดสงครามได้ อีกทั้งจั่นยังแหกคุกออกมาวันเดียวกับที่กัปตันฌองเสียชีวิต จั่นจึงตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ด้วย หลวงอินทร์ต้องการให้พุดซ้อนช่วยพูดให้จวงกล่อมลูกชายให้มอบตัว พุดซ้อนทำตามที่หลวงอินทร์ต้องการ แต่จวงบอกว่าจั่นยังไม่กลับมาที่บ้าน หลวงอินทร์จึงทำอะไรไม่ได้
ลายกินรี
หลังจากตรวจจวงเสร็จ พุดซ้อนและจีบเดินทางไปที่วัดยอเซฟที่เป็นที่เก็บศพของกัปตันฌองเพื่อแอบตรวจศพอีกครั้ง โชคดีที่โรแบรต์สั่งน้ำแข็งมารักษาสภาพศพทำให้ศพยังไม่เน่ามากนัก พุดซ้อนเจอรอยเส้นเชือกที่ใต้รักแร้ รอยถลอกยาวและรอยเปื้อนโคลนที่กลางหลัง และมีซี่โครงหักด้วย พุดซ้อนยิ่งมั่นใจว่ากัปตันฌองถูกคนฆ่าก่อนทิ้งน้ำ จึงผ่าท้องเพื่อเอาสารในกระเพาะอาหารเก็บไปตรวจด้วย บังเอิญโรแบรต์เข้ามาดูศพพอดี โรแบรต์จึงมอบผ้าลายกินรีให้พุดซ้อนตรวจสอบ และทั้งสองได้พูดคุยกันว่าผู้ต้องสงสัยที่โรแบรต์พบเพิ่มคือกัปตันปอลที่เคยมีปากเสียงกัน ตรงตามข่าวที่พุดซ้อนได้ยินมา คลาร่าภรรยากัปตันเองก็เคยมีข่าวว่าสามีนอกใจและทำร้ายร่างกายอยู่บ่อยครั้ง อีกทั้งยังมี นางเอี้ยง ทาสในบ้านกัปตันฌองที่ถูกข่มขืนทั้ง ๆ ที่กำลังท้องอยู่ด้วย
เจ้าจอมสารภีและ ลูกจัน ลูกพี่ลูกน้องของเธอ ไปสืบข่าวเรื่องผ้ากินรีมาได้จึงรีบมาบอกพุดซ้อนที่บ้าน บังเอิญหลวงอินทร์มาที่บ้านเพื่อถามเรื่องจวงจึงได้ฟังข่าวพร้อมกัน เจ้าจอมสารภีพบว่า ผ้าลายกินรีเป็นของเจ้าจอมกินรีคนเดียว พิม คนของเจ้าจอมกินรีสนิทกับลูกจันจึงเล่าว่าเคยมีผ้าหายไปหลายผืนแต่ไม่รู้ว่าหายไปไหน อีกทั้งเจ้าจอมกินรียังรู้จักกับกัปตันปอลและกัปตันฌองเพราะผ้าลายอย่างในตำหนักถูกส่งมาจากเมืองสุรัตด้วยเรือของกัปตันทั้งสองคน และได้ยินว่าเจ้าจอมกินรียังเคยมีปากเสียงกับกัปตันทั้งสองคนเรื่องค้างเงินค่าสินค้าด้วย พุดซ้อนจึงฝากผ้าลายกินรีไว้กับเจ้าจอมสารภีเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม
โรแบรต์มาชวนให้พุดซ้อนไปหาคลาร่าด้วยกันอีกครั้ง แต่พุดซ้อนต้องไปดูนางจวง จึงให้โรแบรต์ไปดูนางจวงก่อนแล้วค่อยไปหาคลาร่าด้วยกัน จั่นปลอมเป็นหญิงเพื่อดูแลแม่อยู่ในบ้านแต่ไม่มีใครรู้ เมื่อเห็นพุดซ้อนมา จวงจึงไล่ให้จั่นลงไปก่อน แต่หลวงอินทร์ปลอมตัวเพื่อดักจับอยู่ เมื่อเห็นจั่นลงมาก็รีบเข้าจับกุม โรแบรต์เห็นก็เข้าใจผิดคิดว่ามีผู้ชายลวนลามผู้หญิงจึงเข้าไปช่วย ทำให้จั่นสบโอกาสแล้วหนีไปได้ หลวงอินทร์โมโหมากจึงเข้าไปจับจวงข้อหาให้ที่อยู่คนร้าย พุดซ้อนพยายามห้ามแต่ก็ไม่สำเร็จ
หลังจากนั้น โรแบรต์ไปบ้านของคลาร่าพร้อมกับพุดซ้อน คลาร่าเล่าเรื่องที่กัปตันฌองมีปัญหากับเจ้าจอมกินรี เพราะเจ้าจอมเล่นพนันแล้วมายืมเงินกัปตันฌองอยู่บ่อยครั้ง กัปตันฌองจึงไปยึดผ้าลายกินรีมาจากเรือกัปตันปอล อีกทั้งยังเล่าว่าสามีของเธอเป็นคนมีนิสัยประหลาดชอบแต่งหญิง เพื่อเพิ่มอารมณ์ทางเพศของตนเอง เมื่อเสร็จธุระกับคลาร่า พุดซ้อนก็กลับมาที่บ้านแล้วพบว่าหลวงอินทร์ได้นำนางจวงมาไว้ที่บ้านของเธอ ความจริงแล้วหลวงอินทร์ต้องการล่อให้จั่นไปมอบตัวจึงต้องทำเป็นจับนางจวง และที่นำจวงมาไว้ที่บ้านของพุดซ้อนเพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างเต็มที่ พุดซ้อนเข้าใจจึงหายโกรธและเล่าเรื่องที่รู้มาจากคลาร่าให้หลวงอินทร์ฟัง เธอขอให้หลวงอินทร์ร่วมมือกับตนและโรแบรต์เพื่อสืบหาคนร้ายที่ฆ่ากัปตันฌองให้เร็วที่สุด หลวงอินทร์ตอบตกลง
พุดซ้อนแวะไปหาเจ้าจอมสารภีและลูกจันในวังเพื่อถามข่าวเรื่องผ้าลายกินรี เธอขอผ้าลายกินรีกลับไปเพื่อสืบเพิ่มเติม ก่อนออกจากวัง โขลน ได้ขอตรวจดูห่อผ้าลายกินรี แต่ก็ปล่อยตัวเธอออกมาตามปกติ แต่โขลนคนนั้นกลับไปแจ้ง คุณท้าวนกแก้ว ซึ่งเป็นตำรวจในวังและเป็นคนของเจ้าจอมกินรี คุณท้าวนกแก้วจึงไปแจ้งเจ้าจอมกินรีเรื่องที่พุดซ้อนนำผ้าลายกินรีติดตัวออกจากวังไป เจ้าจอมกินรีร้อนใจมาก รีบไปหาเจ้าจอมสารภีในคืนนั้น แต่เจ้าจอมสารภีมีประสบการณ์มาก เธอทำตัวสงบนิ่งและยืนยันเสียงแข็งว่าตนไม่รู้เห็น หากจะกล่าวหากันก็ต้องมีหลักฐานที่ชัดเจน เจ้าจอมกินรีทำอะไรไม่ได้จึงกลับไปด้วยความแค้นใจ
พุดซ้อนกลับมาที่บ้าน ก้าวออกจากเรือเป็นคนแรก ไม่ทันระวังตัวก็ถูกจั่นจับตัวไว้เพราะเข้าใจว่าพุดซ้อนเป็นคนรักของหลวงอินทร์ และจะนำตัวพุดซ้อนไปแลกกับนางจวง หลวงอินทร์ที่เฝ้าจวงอยู่ที่เรือนคนไข้ได้ยินเสียงเอะอะจึงตามมาช่วยได้ทัน แต่ก็ถูกจั่นแทงเข้าที่ท้องแล้วหนีไป พุดซ้อนให้อะมีนะห์ไปหาสมุนไพรห้ามเลือด อะมีนะห์ที่แกล้งทำเป็นไม่รู้ภาษาสยามกลับทำตามคำสั่งได้ทันที ส่วน มี ไปตาม หลวงพ่อโปมาร์ค มาช่วยทำแผล เนื่องจากแผลมีดแทงต้องใช้หมอสองคนช่วยกันห้ามเลือดและดึงมีดออก เมื่อทำแผลเสร็จ หลวงอินทร์ก็พ้นขีดอันตรายเพราะไม่ได้แทงถูกจุดสำคัญ
ลายกินรี
โรแบรต์ไปสืบคดีจากกัปตันปอล กัปตันยืนยันว่าคืนนั้นตนอยู่กับ อุสมาน เพื่อนชายคนสนิทและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของกัปตันฌอง แต่กัปตันปอลยอมรับว่ามีปัญหากับกัปตันฌองจริง เพราะกัปตันฌองมาเอาผ้าลายกินรีที่มากับเรือของตนไป ตนจึงไม่ได้รับเงินจากเจ้าจอมกินรี และไม่สามารถฟ้องร้องกับใครได้เพราะการทำผ้าลายอย่างโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพระเจ้าอยู่หัวถือว่ามีความผิด หลังจากนั้นยังมีข่าวว่าเจ้าจอมกินรียังได้ส่งคนไปรุมทำร้ายกัปตันฌองด้วย นอกจากนี้ กัปตันปอลยังเกริ่นว่าจะเล่าเรื่องเด็กคนหนึ่งให้ฟัง แต่ให้โรแบรต์มาหาภายหลังเพราะวันนี้ตนต้องการจะพักผ่อนแล้ว
พุดซ้อนนำสารในกระเพาะอาหารของกัปตันฌองมาตรวจ พบว่าในกระเพาะอาหารมีว่านเลือดอยู่ ซึ่งทำให้มีอาการ หน้ามืด วิงเวียน หัวใจเต้นผิดปกติ และอาการคล้ายคนเมาเหล้า และยังมีฤทธิ์ฆ่าคนได้อีกด้วย พุดซ้อนได้ลองเอายางของว่านเลือดไปเทียบกับรอยแปลก ๆ บนผ้าลายกินรีและได้ผลตรงกัน ทำให้เธอแน่ใจว่ามีคนตั้งใจผสมว่านเลือดในอาหารให้กัปตันฌองกินอย่างแน่นอน เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากตรวจคนไข้เสร็จ พุดซ้อนจึงรีบนำข่าวนี้ไปบอกหลวงอินทร์และโรแบรต์ พุดซ้อนตั้งใจจะไปหาคลาร่าอีกครั้งเพื่อถามถึงอาหารมื้อสุดท้ายที่กัปตันฌองได้กินเข้าไป จึงขอให้โรแบรต์ไปด้วยเพื่อให้คลาร่ายอมให้เข้าพบ
ในคืนนั้น อะมีนะห์ได้ยอมเล่าเรื่องของตนเองให้พุดซ้อนฟัง ว่าเธอเป็นคนในเมืองสุรัต บ้านของเธอทำผ้าลายกินรีผืนนี้ เธอจำได้เพราะผ้าผืนนี้ถูกสั่งทำขึ้นพิเศษเพียงชิ้นเดียว ต่อมาพ่อของเธอให้แต่งงานกับเศรษฐีชายแก่ แต่คืนเข้าหอเศรษฐีคนนั้นก็ตาย ทำให้เธอต้องเข้าพิธีสตีที่ต้องตายตามสามีไป เธอไม่อยากตายจึงต้องหนีขึ้นเรือของกัปตันปอลโดยปลอมเป็นชาย โดยเพื่อนของเธอให้ความช่วยเหลือ แต่เพื่อนถูกจับได้และโยนทิ้งทะเลไปกลางทาง เมื่อถึงสยามจะถูกนำไปขายจึงหนีไปและได้เจอกับจีบ
เช้าวันถัดมา คนของกัปตันปอลมาแจ้งให้โรแบรต์ไปที่บ้านของกัปตันปอลโดยด่วน เมื่อไปถึงโรแบรต์ก็ได้พบศพของกัปตันปอลถูกเชือดคอ โดยคนของเขาคิดว่าอุสมานเป็นคนทำเพราะเขารีบร้อนหนีไปกลางดึก ฝ่ายพุดซ้อนเอง เจ้าจอมกินรีก็มาหาที่บ้านเพื่อขอผ้าของเธอคืน แต่หลวงอินทร์ซึ่งพักรักษาตัวอยู่ที่เรือนคนไข้ออกมาช่วยออกหน้ารับแทนว่าคืนไม่ได้เพราะเป็นหลักฐานในคดี ทำให้เจ้าจอมกินรีโกรธมาก หลวงอินทร์ขออยู่ที่บ้านพุดซ้อนต่อเพื่อรักษาความปลอดภัย แต่แม่พิกุลไม่ยอมเพราะพุดซ้อนอาจจะเสื่อมเสียได้ หลวงอินทร์จึงไปเรียนคุณหญิงแสร์ให้มาสู่ขอพุดซ้อนและเล่าเรื่องเจ้าจอมกินรีให้คุณหญิงแสร์ฟัง คุณหญิงห่วงลูกที่ไปยุ่งเกี่ยวกับเจ้าจอมกินรี ทำให้เธอตัดสินใจไปพบกับเจ้าจอมสารภีและพบ เจ้าจอมจำปา หนึ่งในเจ้าจอมที่เคยไปบ่อนของเจ้าจอมกินรีและติดหนี้ เธอขู่เจ้าจอมกินรีว่าจะเปิดเผยเรื่องบ่อนต่อพระเจ้าอยู่หัว เจ้าจอมกินรีจึงส่งคนมาทำร้ายจนเธอเสียโฉมและสูญเสียการมองเห็นไปข้างหนึ่ง ทั้งสามคนจึงตกลงร่วมมือกันเพื่อเปิดเผยความชั่วที่เจ้าจอมกินรีได้ทำเอาไว้
ไม่กี่วันต่อมา กัปตันฟอร์แบง ถูก ฟอลคอน สั่งปลดจากตำแหน่ง กัปตันฟอร์แบงจึงตัดสินใจจะกลับฝรั่งเศสทันทีหากมีเหตุการณ์ขึ้นมาอีก โรแบรต์จึงตัดสินใจรีบปิดคดีให้เสร็จก่อนที่จะต้องกลับฝรั่งเศส โรแบรต์ไปหาพุดซ้อน แต่วันนั้นเป็นวันหมั้นของพุดซ้อนและหลวงอินทร์พอดีทำให้ทั้งคู่อยู่ด้วยกัน โรแบรต์แจ้งข่าวเรื่องกัปตันปอลเสียชีวิต และอุสมานได้หนีไปอยู่ที่เกาะทุ่งแก้วที่เดียวกับที่จั่นกบดานอยู่ ทั้งสามคนจึงไปเกาะทุ่งแก้วด้วยกันพร้อมกับนางจวง แต่เมื่อไปถึงพบว่าอุสมานผูกคอตาย พุดซ้อนตรวจพบว่าอุสมานถูกรัดคอแล้วนำศพมาผูกคอเพื่ออำพรางและมีว่านเลือดเลอะที่ศพด้วย จึงมั่นใจว่าเกี่ยวข้องกับการตายของกัปตันฌอง โรแบรต์ขออยู่รอพบญาติอุสมานเพื่อสอบถาม ฝ่ายหลวงอินทร์ก็ได้บุกไปจับจั่นโดยให้จวงช่วยกล่อมจั่นจึงยอมออกมามอบตัว
เมื่อกลับมาถึงบ้าน อะมีนะห์มาแจ้งข่าวให้พุดซ้อนทราบว่าหลวงพ่อโปมาร์คมาที่เรือนเพื่อขอเฝือกไม้ไผ่ทอง แต่ที่บ้านหมดพอดี หลวงพ่อจึงกลับไปก่อน บ่ายวันถัดมา พุดซ้อนได้เดินทางไปหาหลวงพ่อโปมาร์คพร้อมกับอะมีนะห์ จึงทราบว่าเฝือกที่ขอไปจะนำไปให้ อองรี ลูกของกัปตันฌองและคลาร่า ซึ่งข้อศอกถูกบิดจนหักและเหตุน่าจะเกิดก่อนกัปตันฌองเสียชีวิตด้วย พุดซ้อนนึกสงสัยจึงเดินทางไปพบคลาร่าที่บ้านอีกครั้ง เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป ? ใครคือฆาตกรตัวจริง ? และเหตุใดจึงมีเรื่องผ้าลายกินรีเข้ามาเกี่ยวข้องลายกินรี